รีวิวซีรีย์เกาหลี my name สวัสดีค่ะวันนี้แอดมี ซีรี่ย์เกาหลี มาแนะนำผู้อ่านทุกคน เป็นซีรีส์แนว แอ็คชั่นนัวร์ที่ฉีกขนบนางเอกเกาหลีที่เราคุ้นเคยกัน และเป็นการผลิกบทบาทของ ‘ฮันโซฮี’ จากสาวสวยใน word of married couple และ nevertheless มาสู่บทหญิงแกร่งในเรื่องนี้ ชื่อเรื่องว่า my name  ดูหนังออนไลน์

ซีรีส์ที่ขึ้นครองอันดับหนึ่งของ Netflix ประเทศไทย

รีวิวซีรีย์เกาหลี my name

รีวิวซีรีย์เกาหลี my name เรื่องย่อ

my name เป็นซีรีส์แนว revenge drama หรือแนว ‘ข้ามาเพื่อแก้แค้น’ ที่เล่าเรื่องเรียงไปแบบคลาสิคเรียงลำดับไปตั้งแต่ต้นจนจบ แต่มีเสน่ห์ที่การผสมองค์ประกอบของหลาย ๆ แนว

อย่าง แอคชั่น ไขปริศนา ทริลเลอร์ที่มีเรื่องให้ลุ้นอยู่เรื่อย ๆ และโดดเด่นด้วยความองค์ประกอบของความเป็นฟิลม์นัวร์

ที่สะท้อนด้านมืดของจิตใจมนุษย์ผ่านทางงานภาพที่ใช้สีสันโทนค่อนข้างมืด เหมาะสมกับความดาร์คของเรื่อง เข้าคู่กันได้ดีกับเพลงประกอบที่มีจังหวะหนักหน่วง ซีรีส์เล่าเรื่องได้สนุก

รีวิวซีรีย์เกาหลี my name

ที่จริงซีรีส์แนวแก้แค้นเห็นได้บ่อย ๆ และเป็นที่นิยมอย่างมาก เช่น taxi driver, vinzenzo หรือ itaewon Class แต่ในเรื่องราวการแก้แค้นส่วนใหญ่

ทั้งซีรีส์เอเชียหรือทางฝั่งยุโรงและอเมริกา มักจะนำด้วยตัวละครเอกชายที่ต้องการแก้แค้น โดยมีผู้หญิงคอยสนับสนุน มาในบทบาทของนางเอก 

หรือเพื่อนร่วมทีมที่สวยเก่งฉลาด มักจะช่วยให้แผนการณ์ประสบความสำเร็จ ด้วยกลเม็ดแบบต่าง ๆ และบ่อยครั้งก็ใช้มารยาหญิงเป็นตัวหลอกล่อ

ถึงแม้ หลัง ๆ จะมีสายลุยใช้อาวุธใช้กำลังได้อย่าง กัปตันจางใน space sweepers หรือ คังแซบยอกใน squid game ยังไงก็ยังไม่ได้เป็นตัวนำอยู่ดี my name สปอย

สลัดคราบฮันโซฮี

เป็นเรื่องราวของ ‘ยุนจีอู’ (ฮันโซฮี) นักเรียนมัธยมคนหนึ่งที่มีพ่อเป็นนักเลงค้ายา พ่อของจีอูถูกฆาตกรรมที่หน้าห้องของพวกเขา my name พระเอก คือใคร

ทำให้จีอูตั้งเป้าหมายที่จะแก้แค้นแทนพ่อของเธอให้ได้ เธอเข้าไปฝึกการต่อสู้ในแก๊งที่พ่อเธอเคยอยู่ โดยมี ‘ชเวมูจิน’ (พัคฮีซุน) หัวหน้าใหญ่คอยสนับสนุน

จนเมื่อถึงเวลาจีอูก็แฝงตัวเข้าไปเป็นตำรวจในนาม ‘โอฮเยจิน’ เพื่อตามหาตำรวจที่ฆ่าพ่อของเธอ แต่เธอกลับได้พบกับความจริงที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน

ถึงแม้พล็อตจะไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรือคาดเดาได้ยากนัก แต่ my name ก็ยังดำเนินเรื่องได้ชวนติดตามด้วยการแสดงที่แข็งแรงโดยเฉพาะ

ฮันโซฮีที่ได้แสดงฝีมือเต็มที่ในฉากดราม่าหนัก ๆ และพัคฮีซุนที่มีเสน่ห์เหลือร้ายในบทชเวมูจิน สิ่งที่น่าชื่นชมเป็นพิเศษคือเคมีการแสดงของทั้งสองคนที่ทำให้เห็นความผูกพัน

และความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างตัวละครทั้งสองได้เข้มข้น จนทำให้ตัว จอนพิลโด ที่รับบทโดยอันโบฮยอนดูจืดไปถนัดตา ถึงแม้เขาจะแสดงได้ดีไม่มีอะไรบกพร่องก็ตาม

รีวิวซีรีย์เกาหลี my name

บอกเลยว่าเรื่องนี้ฮันโซฮีสลัดคราบนางเอกที่เราเคยเห็นในเรื่องอื่น ๆ ไปอย่างสิ้นเชิง เพราะงานนี้เธอมาในแบบสะบักสะบอม มีเมกอัปเป็นคราบเลือดและบาดแผลทั่วเรือนร่าง

สวมบทบาทเป็นสาวที่มีความหวังอยู่ที่การแก้แค้นให้พ่อผู้จากไป มุ่งมั่นสุด ๆ และตั้งใจไปหยุดอยู่ที่การหาฆาตรกรให้เจอและฆ่ามันให้ได้ my name สนุกไหม

การที่ต้องสูญเสียพ่อไปตั้งแต่อายุยังน้อยทำให้การแก้แค้นเป็นเป้าหมายอย่างเดียวในชีวิต เรียกได้ว่าชีวิตนี้อยู่ได้ด้วยความแค้นเพียว ๆ ไม่มีมุมอื่นเข้ามาแหยม

ซีรีส์แนวล้างแค้นที่มีบ่อเกิดจากความแค้น

my name เป็นซีรีส์แนว revenge drama หรือแนว ‘ข้ามาเพื่อแก้แค้น’ ที่เล่าเรื่องเรียงไปแบบคลาสิคเรียงลำดับไปตั้งแต่ต้นจนจบ แต่มีเสน่ห์ที่การผสมองค์ประกอบของหลาย ๆ แนว อย่าง

แอคชั่น ไขปริศนา ทริลเลอร์ที่มีเรื่องให้ลุ้นอยู่เรื่อย ๆ และโดดเด่นด้วยความองค์ประกอบของความเป็นฟิลม์นัวร์ my name ตอนจบ

ที่สะท้อนด้านมืดของจิตใจมนุษย์ผ่านทางงานภาพที่ใช้สีสันโทนค่อนข้างมืด เหมาะสมกับความดาร์คของเรื่อง เข้าคู่กันได้ดีกับเพลงประกอบที่มีจังหวะหนักหน่วง ซีรีส์เล่าเรื่องได้สนุก

เป็นการเดินหน้าสู้เพื่อบรรลุเป้าหมาย ทำให้ตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครที่แข็งแกร่งแต่ก็ไม่ได้ไร้หัวใจซะทีเดียว เราจึงจะได้เห็นนางเอกที่บู๊เลือดเดือด หน้าตายและไม่อยากยิ้ม

จนผู้ชายทั้งเรื่องสามารถลืมไปได้เลยว่าเธอเป็นผู้หญิง เตะต่อยไปเลยจ้ะ เอาให้เต็มที่เพราะเธอก็จะไม่ยอมรามือให้ใครเด็ดขาด งานนี้แฟนคลับหนังบู๊ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ

เพราะคิวบู๊ต่าง ๆ ที่ประเคนมาในทุก ๆ ฉากนั้นมันพ่ะย่ะค่ะ ทำเอาเลือดในกายพลุ่งพล่าน ผสมกับความอึดอัด ลุ้นระทึกเพราะเอาใจช่วยนางเอกตลอดเวลา my name เรื่องย่อ pantip

ถ้าหากเป็นเรื่องแก้แค้นที่ผู้หญิงเป็นตัวนำก็มักจะเกี่ยวข้องกับ 2-3 ประเด็นใหญ่ ๆ คือสามีเลว โดนบุลลี่ เพราะไม่สวย โดนทำร้ายหรือครอบครัวโดนทำร้าย

แต่รูปแบบการแก้แค้นมักจะไปในทิศทางเดียว คล้ายกับที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้คือการใช้เสน่ห์ของความเป็นหญิง หรือ femme Fatale

ที่มาพร้อมฉากแปลงโฉมให้สวยแล้วทาปากแดงไปแก้แค้น อย่างเช่น birth of beauty ซีรีส์ปี 2014 ที่่นางเอกศัลยกรรมทั้งตัวไปแก้แค้นครอบครัวและสามีเก่า

หรือ world of married couple ที่หมอจีหาทางเอาชนะแทโอทุกวิถีทาง แม้กระทั่งการแต่งตัวเซ็กซี่ไปยั่วเพื่อนสามี

บทง่าย ดำเนินเรื่องโดนใจ

ซึ่งฮันโซฮีก็สวมบทบาทนี้ได้อย่างเด็ดขาด สีหน้าแววตาบ่งบอกชัดเจนเลยว่า ผู้หญิงคนนี้หาความสุขในชีวิตไม่ได้เลยเพราะชีวิตของเธอมีแต่ความแค้นอยู่เต็มอก

ทุกนาทีจมอยู่กับความทุกข์ ไร้สิ่งบันเทิงใด ๆ มาทำให้ชีวิตสดใส มืดมนสิ้นดีอ่ะจ้ะชีวิตนี้ เป็นเส้นเรื่องเดี่ยว ๆ ที่พุ่งเป้าไปที่การแก้แค้นของนางเอก my name ใครคือคนร้าย

และการลิ้มรสความเจ็บปวดจากความไว้ใจคนผิดที่เรารู้แต่นางเอกไม่รู้ เรียกได้ว่าไม่ต้องเดาตัวร้ายคนดูก็เห็นอยู่โต้ง ๆ จากประสบการณ์ของการดูหนังแอ็กชันแนวนี้มามากมาย

ไม่ต้องเดาก็รู้แล้วละว่ามันคือใคร แต่สิ่งที่จะลุ้นไปกับเธอก็คือ เมื่อเธอรู้แล้วเธอจะจัดการกับมันยังไงและดื่มด่ำไปกับฉากแอ็กชันที่ไม่ห่วงสวยของฮันโซฮีกันให้เต็มปอด ก็คุ้มแล้วที่จะดูซีรีส์เรื่องนี้

ถึงแม่ว่าบทในเรื่องนี้ดูเผิน ๆ ก็ไม่ได้แตกต่างจากหนังเจ้าพ่อที่ฟัดกัดไม่ปล่อย ตัวเอกตัวร้ายสู้กันชนิดที่ไม่รู้จักความเจ็บปวด ฟัน แทง ยิงไม่ยั้ง ไอ้ที่ตายก็คือตาย

ไอ้ที่ไม่ตายก็ทนทายาด แบบว่า โอ้ยยยย อึดเกินไปแล้ว แต่ที่แตกต่างออกไปก็คือ ซูเปอร์อึดในเรื่องนี้คือ ‘นางเอก’ ที่พกชีวิตบัดซบไว้กับตัวตลอดเวลา

เราจะไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่า อะไรวะก็พ่อเธอเป็นอาชญากรนี่นา การที่จะถูกเก็บมันก็ถูกแล้ว แต่ถ้าเราเข้าใจถึงสาเหตุเราก็จะเชื่อได้ไม่ยากและยิ่งดูต่อไปเรื่อย ๆ ก็จะสงสารนางเอกจับหัวใจ เพราะชีวิตของเธอมันช่าง บัดซบยิ่งนัก

รีวิวซีรีย์เกาหลี my name บทสรุป

my name เป็นซีรีส์ที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ แม้จะมีเส้นเรื่องที่คุ้นเคย เพราะถึงเรื่องจะอยู่ในกรอบของละครแนวแก้แค้น แต่พอเปลี่ยนตัวนำ เอาผู้หญิงมาเป็นตัวเดินเรื่อง

และฉีกภาพเดิม ๆ อย่างการแก้แค้นแล้วต้องลดน้ำหนัก โดยให้ฮันโซฮีเพิ่มน้ำหนัก 10 กีโล เพื่อล้างลุคสาวสวยในเรื่องก่อน ๆ ทิ้ง

แล้ววางให้ตัวละครจีอูเน้นต่อสู้ด้วยการใช้กำลัง my name จึงเป็นการเหมือนประกาศว่าตัวละครหญิงสามารถนำหนังแอคชั่นได้ และเรื่องก็ออกมาสนุกไม่แพ้เรื่องที่ผู้ชายเป็นตัวนำ

ในเรื่องมีการใช้ฉากแอคชั่นในรูปแบบการต่อสู้ระยะประชิดอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งมีจุดเด่นด้านการเพิ่มความดราม่าให้กับซีรีส์เพราะเป็นการต่อสู้ที่เน้นการแลกเปลี่ยนอารมณ์โดยตรงระหว่างตัวละครได้ดี

แม้ซึ่งมีเสียงวิจารณ์อยู่บ้างว่าจำเจ แต่เมื่อนำผู้หญิงมาเป็นตัวหลักการต่อสู้โดยเน้นกำลังนี้ จึงความความหมายพิเศษขึ้นมาเพราะมันทำให้ซีรีส์มีความเป็นเฟมินิสต์อย่างเข้มข้นมากขึ้น

ต่างกับตัวละครหญิงหลายตัวอื่นที่ต้องใช้ กลโกงทริค มารยา พรสวรรค์ จีอูต่อสู้เก่งด้วยการฝึกฝนด้วยกำลังและอาวุธที่เท่าเทียมกับผู้ชายในเรื่อง ใช้เทคนิคการโจมตีจุดตายของคู่ต่อสู้ เพื่อปิดจุดด้อยของตัวเอง

แม้จะยังมีฉากที่เห็นความเสียเปรียบของการเป็นผู้หญิงอยู่บ้าง เช่นฉากการต่อสู้แรก ๆ หรือการที่จีอูโดนเพ่งเล็ง โดนดูถูกเพราะเป็นผู้หญิงคนเดียวในแก๊งอันธพาลใหญ่ ๆ

แต่ว่าอีกไม่นานเกินรอจีอูก็ฟาดคำดูถูกและคู่ต่อสู้กระเด็นไปไกล ฉะนั้น my name จึงห่างไกลกับการเป็นซีรีส์ที่ขยี้ประเด็นผู้หญิงถูกกระทำ ผู้หญิงเป็นเหยื่อ

แต่ทำเกิดความเท่าเทียมอย่างแท้จริงในเรื่อง เพราะดูไปเรื่อย ๆ เราจะไม่เห็นว่าเพศเป็นเรื่องสำคัญ เราเห็นใจจีอูจากอดีตที่โหดร้าย ชะตากรรมที่น่าเศร้า และการต่อสู้แบบทุ่มเททุกอย่างหมดหน้าตักเพื่อเป้าหมาย และรู้แค่เรารักและเอาใจช่วยให้ตัวละครตัวนี้เอาชนะทุกอย่างให้ได้

รีวิวซีรีย์เกาหลี my name ความรู้สึกหลังชม

ด้วยความที่เป็นซีรีส์ 8 ตอนจบ ก็ต้องบอกว่าเป็นการดำเนินเรื่องที่กระชับจนเราอยากตามติดให้จบให้ได้ในเวลาอันสั้น ผู้เขียนดูสองวันจบเลยค่ะงานอื่นไม่ต้องทำกันแล้ว

นั่งดูฮันโซฮีนี่แหละ ด้วยความอยากรู้และที่แน่ ๆ ก็คือด้วยความมันในอารมณ์กับฉากแอ็กชันดุเดือดเลือดพล่าน เห็นสาวแกร่งเป็นไม่ได้ใจมันจี๊ด

ผสมกับซาวด์ประกอบที่บอกความรู้สึกของแต่ละฉากได้แบบเข้าถึง สร้างเสน่ห์ให้กับเรื่องนี้ไปอีกขั้น และที่แน่ ๆ คือเพราะมาก ๆ จนต้องหามาฟังต่อนอกรอบ ไปหาฟังเอาเลยจ้ะเพราะทุกเพลงจริง ๆ my name สนุกไหม

บทเขียนให้นางเอกเรื่องนี้ไม่ได้แกร่งเกินพิกัด แต่ความอึดนั้น ประหนึ่งว่ากินแรดเข้าไปสามตัวเลยทีเดียว ก็อึดป๊ายยย คิวบู๊ต่าง ๆ

เอื้อให้นางเอกสามารถต่อกรกับผู้ชายทั้งหลายในเรื่องได้ด้วยความฉลาดสู้ จู่โจมเฉพาะจุดสำคัญและว่องไวจนรู้สึกว่าลีลาในการฟาดฟันพอเหมาะพอเจาะ

ทำให้เส้นเรื่องสั้น ๆ ที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากการตามล้างแค้น ชีวิตบัดซบและการถูกหลอกใช้ มีไว้เพื่อให้นางเอกได้บรรเลงเพลงบู๊อย่างมีเหตุผลรองรับ

เรียกว่าหาเรื่องขายคิวบู๊่ของนางเอก ว่างั้นเถอะ ก็ขอชมฮันโซฮีอีกแล้วว่าเล่นคิวบู๊ได้ละเอียด เนียนตาเอามาก ๆ ไม่เกิดความขัดหูขัดตา ไม่เกิดความรู้สึกว่าเวอร์วังเกินเบอร์ใด ๆ เลยทั้ง ๆ ที่เธอตัวนิดเดียวเมื่อเทียบกับผู้ชายร่างกำยำทั้งเรื่อง

ดราม่าในซีรีส์เรื่องนี้ก็จะเล่นกับความไว้ใจ การหักหลัง การหลอกใช้ ตัวละครมีความเจ็บปวดที่ยึดเอาเป็นเหตุผลในการทำสิ่งต่าง ๆ ที่มีช่องว่างของความกระชุ่มกระชวยเพียงเสี้ยวเดียวและตอนเดียวซะด้วยสิ

เป็นช่วงเวลาวาบหวามที่ทำให้คนดูยิ้มแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ไปกับความสุขนั้นของนางเอก เอาใจช่วยว่าอย่านะ อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบที่คิดนะเว้ย

แต่แล้วผู้กำกับก็กระชากหัวใจเราไปซะได้ บอกเลยว่าสายสุขนิยมหนีไปให้ไกลเลยจ้ะ เพราะเรื่องนี้ให้ความสุขเดียวคือตัวร้ายตายหยังเขียด แต่ตัวเอกนั้น…ไม่อยากจะพูดเลยค่ะ เป็นเศร้า

ส่งท้ายกันด้วยรีวิวหนังซีรี่ย์เกาหลีเรื่องสนุกไม่แพ้กัน ซีรีย์เกาหลี The First Responders เรื่องราวสุดมันส์ของหน่วยกู้ภัยกับภารกิจสุดหวาดเสียว ติดตามชมรีวิวได้เลยค่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *