รีวิว รักมั้ยนะ เลขาคิม What’s Wrong with Secretary Kim
เรื่องย่อ รักมั้ยนะ เลขาคิม What’s Wrong with Secretary Kim
ลี ยองจุน” ไปร่วมงานปาร์ตี้ริมสระน้ำที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง เขาเป็นที่รู้จักของแขกที่มาร่วมงานในฐานะรองประธานหนุ่มแห่งยู-มยองกรุ๊ป ผู้ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีกำไรเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าหลังเข้ารับตำแหน่ง
เลยได้ขึ้นทำเนียบซีอีโอที่อายุน้อยและประสบความสำเร็จมากที่สุด ทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติจนเหล่าบรรดาชายหนุ่มแอบอิจฉา
เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งพูดถึงข่าวลือที่ว่ายองจุนไม่ยอมให้ผู้หญิงเข้าใกล้ นางแบบสาว “โอ จีรัน” จึงปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวโดยบอกว่าเธอเพิ่งคบกับยองจุนเมื่อไม่นานมานี้ ถึงกระนั้นก็ยอมรับว่าเขารักษาระยะห่างกับเธอจริง ครั้นไปถึงบริเวณงานยองจุนปลีกตัวไปนั่งตามลำพังโดยไม่สนใจใคร (รวมทั้งจีรัน)
จากนั้นก็นั่งกลุ้มพลางครุ่นคิดว่าทำไมถึงเป็นเช่นนี้ หลังคิดไม่ตกเขาจึงรำพึงรำพันกับตัวเองว่า…เกิดอะไรขึ้นกับเลขาคิมกันแน่?
ย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ก่อนหน้า “เลขาคิม” ไปที่บ้านยองจุนแต่เช้าเพื่อจัดเตรียมน้ำชา เลือกเครื่องแต่งกาย ผูกเน็คไท และดูแลความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมให้เขา หลังมองตัวเองในกระจก ยองจุนก็เอ่ยปากชมตัวเองที่ดูดีจนออร่าเปล่งประกายเจิดจ้า เลขาคิมได้แต่ยิ้มและเห็นด้วย พอรู้ว่าผอ.คิมโทรฯ มาดูหนังออนไลน์
ยองจุนก็บอกเลขาคิมว่าไม่ต้องรับสาย เขารู้ว่าผอ.คิมจะแจ้งเรื่องการเจรจาธุรกิจที่เวียดนามไม่ประสบความสำเร็จ เลยบอกเลขาคิมว่าตนไม่อยากรับสาย ‘คนผิดบาป’ ให้เสียอารมณ์ จากนั้นก็ชี้ว่าคนที่ไร้ความสามารถแล้วยังไม่รู้ตัวนับเป็นความผิดบาปอย่างหนึ่ง เขาไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราถึงปล่อยให้ตัวเองไร้ประสิทธิภาพได้ขนาดนี้
แค่ขยันและทำมันให้สำเร็จ เรื่องง่ายๆ แค่นี้ทำไมถึงทำกันไม่ได้ เลขาคิมชี้ “ใช่ว่าทุกคนจะเหมือนคุณนี่คะ…รองประธาน” ยองจุนยืดอกรับคำชม
ตั้งแต่เกิดมาชั้นยังไม่เคยเห็นใครสมบูรณ์แบบเหมือนคุณเลยค่ะ…ท่านรองฯ” (ยองจุนยิ้มอย่างพึงพอใจ) ทันใดนั้นก็มีสายเข้าอีกครั้ง เมื่อเลขาคิมแจ้งว่าเป็นสายของ ‘คนบาปหนา’ ยองจุนก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อไปถึงบริษัทฯ เลขาคิมก็ตามยองจุนไปที่ห้องผอ.โจ (คนบาปหนา) ทันทีที่เห็นยองจุน ผอ.โจรีบแก้ตัวว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิด ยองจุนตำหนิผอ.โจที่แอบไปสถานบริการทางเพศในเวลางาน เป็นเหตุให้มีคนนำเรื่องดังกล่าวมาแฉบนโลกโซเชียลดูหนัง
(แม้ไม่ระบุชื่อแต่บอกใบ้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่) จนเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ทำให้ภาพลักษณ์ผู้บริหารและกลุ่มบริษัทฯ เสียหาย หลังตำหนิผอ.โจแล้ว
ยองจุนก็หันมาถามตารางงานเลขาคิม เลขาคิมแจ้งว่าเขาต้องเข้าประชุมบอร์ดบริหารเรื่องการขยายธุรกิจใหม่ ยองจุนจะจุดบุหรี่สูบแก้กลุ้มแต่เลขาคิมดึงบุหรี่ออกจากปากเขาพลางเตือนว่าห้ามสูบบุหรี่ในอาคาร ยองจุนยอมเชื่อฟังแต่โดยดี เขาหันกลับไปมองผอ.
โจครู่หนึ่งก่อนเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดจา
ผอ.โจพยายามร้องขอความเมตตาจากยองจุนแต่ไม่เป็นผล เขาจึงได้แต่ทรุดตัวร่ำไห้ เลขาคิมเห็นดังนั้นจึงเข้าไปปลอบใจ และชี้ว่าโครงการที่ผอ.โจรับผิดชอบถูกยกเลิก แถมยังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาอีก ท่านรองเลยโกรธเพราะตั้งความหวังในตัวผอ.โจไว้สูงมาก ประกอบกับท่านรองต้องใช้ความพยายามไม่น้อยในการลบชื่อบริษัทออกจากข่าวฉาวของผอ.โจ เลขาคิมบอกให้ผอ.โจ
จดจำบทเรียนในครั้งนี้แล้วเริ่มต้นใหม่ให้ดีกว่าเดิม จากนั้นก็แนะให้เขากลับไปพักผ่อนที่บ้าน เมื่อผอ.โจกลับไปแล้วเลขาอิม (เลขาผอ.โจ) จึงถามว่าผอ.โจยังทำงานที่นี่ต่อได้ใช่ไหม เ
ลขาคิมไม่ตอบแต่กลับโทรฯ แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาเก็บของที่ห้องทำงานของผอ.โจ จากนั้นจึงหันไปถามเลขาอิมว่า “เคยเห็นรองประธานให้โอกาสคนเป็นครั้งที่สองด้วยเหรอ
ขณะประชุมผู้บริหาร “ปาร์ค ยูชิก” (ผู้บริหารระดับสูงและเพื่อนสนิทของยองจุน)
นำเสนอแผนเข้าซื้อกิจการสายการบินนานาชาติที่มีผลประกอบการเป็นอันดับสามของเกาหลี โดยจะผลักดันให้เป็นสายการบินอันดับหนึ่งของประเทศและติดอันดับท็อปเท็นของโลกภายใน 5 ปี หลังยูชิกชี้แจงงบการเงินโดยระบุว่าปัจจุบันสินทรัพย์หมุนเวียนของสายการบินดังกล่าวอยู่ที่ 2,024 ล้านล้านวอน (ราว 58.5 หมื่นล้านบาท) ส่วนหนี้สินหมุนเวียนอยู่ที่ 9.4 แสนล้านวอน
(ราว 2.7 หมื่นล้านบาท) ดังนั้น อัตราส่วนสภาพคล่องทางการเงินจึงอยู่ที่ประมาณ 275 เปอร์เซ็นต์ ยองจุนได้ยินดังนั้นจึงแย้งทันทีว่าอัตราส่วนสภาพคล่องทางการเงินที่ถูกต้องคือ 215.319149 เปอร์เซ็นต์
ทำเอาเหล่าผู้บริหารที่เข้าร่วมการประชุมถึงกับอึ้ง ถึงกระนั้นเขาก็บอกให้ยูชิกเดินหน้าทำตามแผนและออกจากห้องไป บรรยากาศอันตึงเครียดในห้องประชุมจึงผ่อนคลายลงทันที หลังได้ยินเหล่าผู้บริหารพากันบ่นว่ายองจุนเคร่งเครียดจริงจังเกินไปจนทำให้พวกตนหวาดผวา
ยูชิกจึงแกล้งหลอกว่ายองจุนเดินกลับเข้ามาในห้อง ทุกคนเลยรีบลุกขึ้นยืนโดยพร้อมเพรียงกัน ครั้นพอรู้ว่าโดนหลอกผู้บริหารคนหนึ่งจึงบ่นว่ายูชิกคงไม่อยากให้พวกตนพูดลับหลังยองจุนในทางไม่ดี เ
พราะทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกันเลขาคิมพูดภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์อย่างคล่องแคล่ว โดยบอกปลายสายว่ายองจุนได้รับเชิญไปงานเลี้ยงส่วนตัวของสถานทูตสเปน
เธอจึงขอติดต่อกลับเพื่อทำการนัดหมายใหม่ในวันรุ่งขึ้น ยองจุนได้ยินดังนั้นจึงชมว่าภาษาอังกฤษของเลขาคิมดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับเก้าปีก่อนตอนที่พวกตนไปอเมริกาด้วยกันครั้งแรก ซึ่งในตอนนั้นเธอแทบสื่อสารกับชาวต่างชาติไม่ได้เลย เลขาคิมกล่าวว่าทั้งหมดเป็นเพราะท่านรองฯ ช่วยชี้แนะ ยองจุนเห็นด้วยและกล่าวว่าตนคอยช่วยเหลือเธออย่างจริงจังมาโดยตลอด
เลขาคิมเสริมว่าทุกครั้งที่เธอพูดผิดหรือออก “accent” (สำเนียง) ผิดเพี้ยน เขาจะทักให้เธออับอายหรือไม่ก็ตำหนิอย่างแรง และนั่นก็เป็นแรงผลักดันให้เธอเร่งพัฒนาตนเอง ยองจุนไม่รู้ว่ากำลังโดนเลขาคิมเหน็บ ซ้ำยังคิดไปเองว่าการตำหนิหรือทำให้อับอายช่วยพัฒนาเลขาคิมได้ เขาจึงตัดสินใจว่าจะใช้วิธีนี้กับเธอต่อไป จากนั้นก็ชี้ว่าก่อนหน้านี้เลขาคิมเพิ่งพูดคำว่า “accent” ผิด และออกเสียงที่ถูกต้องให้ฟัง
คืนนั้นเลขาคิมกับยองจุนควงคู่กันไปร่วมงานเลี้ยงสุดหรูของสถานทูตสเปน เลขาคิมสวมเดรสสีแดงสุดหรู ส่วนยองจุนสวมทักซิโด้ราคาแพง เลขาคิมคอยแนะให้ยองจุนทักทายแขกคนสำคัญโดยเริ่มจากท่านทูตสเปนคนใหม่ดูหนัง4k
ยองจุนจึงเข้าไปทักทายและแสดงความยินดีเป็นภาษาสเปน หลังจากนั้นยองจุนก็พูดแนะนำบริษัทของตนเป็นภาษาต่างๆ กับแขกเหรื่อชาวต่างชาติที่มาร่วมงาน สามสาวชาวเกาหลีเห็นยองจุนแล้วต่างพากันชื่นชมในเสน่ห์อันล้นเหลือ
พวกเธอรู้สึกตื่นเต้นเมื่อยองจุนทำท่าเหมือนจะเดินมาหาพวกเธอ แต่แล้วเขากลับเดินผ่านเลยไปและหยุดยืนตรงหน้ากระจกเพื่อตรวจสอบความหล่อของตน เลขาคิมเห็นดังนั้นจึงเข้าไปเตือนว่าท่านทูตรออยู่ ยองจุนถามโดยไม่ละสายตาจากกระจกว่า ตอนนี้ตนดูเป็นไงบ้าง เมื่อเลขาคิมยืนยันว่าเขาสมบูรณ์แบบสุดๆ ยองจุนจึงละสายตาจากกระจกแล้วเดินตามเลขาคิมไปขณะเดินทางกลับ ยองจุนอดสงสัยไม่ได้ว่าเลขาคิมพูดภาษาสเปนได้ตั้งแต่เมื่อไหร่
(เขาเห็นเธอยืนคุยกับหนุ่มสเปนที่เข้ามาจีบตั้งนาน) เลขาคิมสารภาพว่าเธอไม่รู้ภาษาสเปน ก่อนชี้ว่าเธอทำงานให้เขาทั้งวันแล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปเรียน ขนาดภาษาอังกฤษกับ
ภาษาจีนยังหาเวลาเรียนไม่ได้ เธอแค่ใช้ไหวพริบนิดหน่อยโดยสังเกตภาษากายของพวกเขา แต่ถ้าใครรุกหนักเธอจะแกล้งโชว์แหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย
(ซึ่งได้มาจากการแข่งขันกีฬา) เพื่อให้เขาเลิกยุ่งกับเธอ ยองจุนได้ยินดังนั้นจึงยิ้มอย่างพึงพอใจและชมว่าเธอสุดยอดมาก เลขาคิมไม่นึกฝันว่าจะได้รับคำชมจากเจ้านาย ยองจุนจึงแสดงความยินดีกับเธอที่ได้รับคำชม เขากล่าวว่าวันนี้เธอทำดีมาก ไม่ว่าเธออยากได้อะไรเขาจะให้เธอทุกอย่าง
และจะไม่ยอมรับคำปฏิเสธของเธอ เลขาคิมกล่าวว่าเธอมีเรื่องจะบอก ยองจุนจึงพูดดักคอว่าห้ามสารภาพรักโดยเด็ดขาด และย้ำว่าพวกตนใกล้ชิดกันเพราะเรื่องงานเท่านั้น ยองจุนแทบไม่เชื่อหูเมื่อเลขาคิมบอกให้เขาเตรียมหาเลขาคนใหม่…เพราะเธอกำลังจะลาออก เขาถามว่าทำไมเธอถึงตัดสินใจลาออกกระทันหัน เลขาคิมอ้างว่า
เป็นเหตุผลส่วนตัว เขาจึงกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่าหากเธอต้องการเช่นนั้นก็ตามใจ แม้จะทำเหมือนไม่แคร์แต่คืนนั้นยองจุนกลับนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย
และได้แต่สงสัยว่าทำไมตนจึงหลับไม่ลงเช้าวันรุ่งขึ้น “ชอง ชีอิน” นำข่าวเด็ดเรื่องเลขาคิมจะลาออกมาบอกเพื่อนร่วมงาน แต่กลับไม่มีใครเชื่อเขาสักคนด้วยเห็นว่าเลขาคิมได้รับความไว้วางใจจากรองประธานเป็นอย่างมาก เมื่อเลขาคิมมาถึงจึงยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความจริง ทุกคนต่างพากันสงสัยว่าทำไมอยู่ๆ เธอก็ลาออกและพากันคาดเดาเหตุผลไปต่างๆ
นานา (เช่น ลาออกไปแต่งงาน ได้งานใหม่ เรียนต่อเมืองนอก หรือถูกท่านรองฯ เหวี่ยงใส่) แต่เลขาคิมปฏิเสธว่าไม่ใช่ทั้งหมด โดยบอกเพียงว่าเป็นเหตุผลส่วนตัว เมื่อยองจุนมาถึงเลขาคิมก็รีบไปเตรียมน้ำชาและอาหารว่างในห้องแพนทรี่ “บง เซรา” (หัวหน้าบง) จึงชวน “ลี ยอง-อก” ตามไปคุยกับเลขาคิมดูหนังออนไลน์4k
เซราคอยจับตาดูวิธีจัดเตรียมอาหารว่างให้ยองจุน เพราะคิด (ไปเอง) ว่าเธอจะได้ทำหน้าที่แทนเลขาคิม เธอเห็นว่ายองจุนให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ของเลขามาก นอกจากเลขาคิมแล้ว ทั้งออฟฟิศก็มีเพียงเธอที่คู่ควรกับตำแหน่งนี้ หลังโดนเซราเหน็บว่าหน้าตางั้นๆ ยอง-อกก็เดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องด้วยความโกรธ
ส่วนเลขาคิมฉวยโอกาสเดินหนีตอนที่เซราหันไปมองนาฬิกาพลางมโนว่าอีกหน่อยเธอคงต้องมาทำงานเร็วขึ้นเพราะรองประธานมาถึงออฟฟิศตอนเจ็ดโมง
แนะนำตัวละคร
พัคซอจุน (Park Seo Joon) แสดงเป็น อียองจุน เขาเป็นรองประธานบริษัทแห่งหนึ่งที่หลงตัวเองอย่างสุดๆ มีความเนี๊ยบแทบทุกอย่าง รวมไปถึงสิ่งของและเสื้อผ้าหน้าผมก็ต้องเป๊ะแบบสุดๆอีกด้วย
เขาเป็นคนที่มีนิสัยที่รักสะอาดไม่ยอมให้ใครแตะเนื้อต้องตัวเขาเลยยกเว้นก็แต่เลขาคิมคนสวยซึ่งเป็นเลขาที่รู้ใจท่านประธานคนนี้ในแทบทุกเรื่องเลยก็ว่าได้ สิ่งที่เขาชอบทำบ่อยๆ
พัคมินยอง (Park Min Young) แสดงเป็น คิมมีโซ เลขาคนสวยที่ทำงานให้กับรองประธานอียองจุน มามากกว่า 9 ปี เธอเป็นเหมือนทุกอย่างให้ท่านประทานเวลามีปัญหาหรือเรื่องอันใดก็ตามท่านประทานมักจะนึกถึงเลขาคนสวยคนนี้เป็นคนแรกๆเสมอมา
บทสรุป
เนื้อหาในซีรีส์ก็เริ่มที่ ลี ยองจุน ท่านรองประธานกลุ่มบริษัทใหญ่ที่ร่ำรวยหน้าตาดีและบุคลิกดีมีความสามารถในการบริหารงานอย่างมืออาชีพแต่หลงตัวเองสุดๆซึ่งเขาผู้ไม่เคยรักใครไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับหญิงคนไหนเลยยกเว้นคิม มีโซเลขาคนสวยฝีมือการทำงานสุดเนี๊ยบและเข้าใจในกระบวนการทำงานกับท่านรองประธานมากที่สุด
เธอทำงานอย่างหนักให้เขามาตลอด 9 ปี เธอเป็นคนที่ขยันและทำงานดีมาตลอดระยะเวลานานซึ่งจู่ๆเธอก็ประกาศว่าจะลาออกทำให้ท่านรองตกใจอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าเลขาที่หน้าที่การงานดี
การเงินก็ดีมากทำไมถึงอยากลาออกทั้งๆที่ไม่มีปัญหาอะไรกับใครในบริษัทเลย นั่นจึงทำให้ท่านรองประธานพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อรั้งเธอไว้เพราะถ้าไม่มีเลขาสาวคนนี้ชีวิตของเขาก็เหมือนจะมีอะไรบางอย่างขาดหายไปคงเป็นการบอกเล่าเรื่องราวการตามตื้อเลขาเพื่อให้มาทำงานต่อซึ่งถ้าหากในชีวิตจริงแทบเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ
แต่ในซีรีส์แล้วเรื่องนี้ถือว่าเป็นแนวซีรีส์ที่แปลกใหม่จริงๆค่ะ อารมณ์แบบไม่รู้ว่ารักหรือผูกพันกับเลขากันแน่ถึงได้ยอมตามตื้อเธอขนาดนี้สิ่งที่ชอบมากที่สุดในตัวละคร เลขาคิม คือหลังจากที่ได้ชมเรื่องนี้แล้วคือความชัดเจนของเธอรีวิวซีรี่ย์
ในตอนที่เธอเริ่มคบหาจริงจังกับรองประธานอี เมื่อเธอต้องออกไปพบกับผู้ชายที่ชอบเธออีกคน เธอก็บอกแฟนของเธอไปตรงๆว่าเธอจะไปพบเพื่อจบเรื่องราว ในการมีความสัมพันธ์ ความชัดเจนคือหนึ่งในสิ่งที่พึงกระทำ เพื่อลดปัญหาการทะเลาะกัน, ความคิดไปเอง และความเข้าใจผิด แล้วมันจะทำให้ทั้งสองฝ่ายคบกันได้อย่างสบายใจไม่ต้องกังวลกันและกัน
เพราะคอมเมดี้มาเยอะมากและที่สำคัญฉากโรแมนติกหวานๆก็ฟินมากค่ะดูไปเขินไป สนุกมากจริงๆค่ะ ความดราม่าสำหรับเราเรื่องนี้ถือว่าดราม่าน้อยนะ และที่สำคัญเคมีของทั้งคู่เข้ากันดีมากและนางเอกสวยจนเราละสายตาไม่ได้เลยค่ะ ใครที่ชอบซีรีส์แบบว่าดีต่อใจดีต่อความรู้สึกและฟินสุดๆ
เอาเป็นว่าไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอะไรกันมากมายให้เสียเวลา จากที่ได้รีวิวมาคงพอจะทำให้เห็นแล้วถึงความสุขและเสียงหัวเราะที่จะได้รับอย่างแน่นอนหลังจากได้เข้าสู่โลกแห่งความรักอันแสนหวานและฟินจิกหมอนของ รองประธานอี กับ เลขาคิม กับหลายฉากที่ทำให้ขำออกมาจนคนข้างๆตกใจ หรือกับอีกหลายตอนที่บิดเอวจนกิ่วเพราะเขินแทนพระนาง และแน่นอนกับอีกหลายครั้งที่มีคติสอนใจกับเรื่องราวความรักของคนธรรมดาที่มันจะชอบเป็นเรื่องไม่ธรรมดา