รีวิวซีรี่ย์ AI Love You

หลังจากที่ตกหลุมรักมนุษย์ ปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอใจเกเรที่กำลังจะถูกล้างข้อมูลจึงต้องหลบหนีด้วยการสิงร่างชายคนหนึ่งและพยายามเอาชนะใจเธอให้ได้ เรียกว่ามาได้จังหวะดีทีเดียวเพราะยังอยู่ในกระแสชวนถกเถียงว่าทำไมคนไทยไม่ดูหนังหรือละครไทยที่คนพูดถึงกันมาหลายวัน แล้วเรื่องนี้ก็ผุดขึ้นมาเหมือนเติมเชื้อไฟเข้าไปเพิ่ม เชื่อว่าหลายคนอาจได้เห็นกระแสคำติชมล้นหลามต่อหนังเรื่องนี้ทางโซเชียลมีเดียก่อนที่จะได้ดูมันจริง ๆ และว่ากันแบบไม่เข้าข้างใคร หนังก็มีส่วนที่ดีหลายอย่างไม่ถึงกับหาความอภิรมย์ไม่ได้จนต้องด่าสาดเสียเทเสียขนาดนั้น และขณะเดียวกันหนังก็ไม่ได้มีคุณภาพขนาดที่ควรต้องชื่มชมอะไรเป็นพิเศษ คือจะดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ อาจถูกจริตคนบางกลุ่มที่รับได้ และไม่ถูกจริตคนที่คาดหวังหนังไว้อีกแบบก็เป็นได้เช่นกัน ดูหนัง 

รีวิวซีรี่ย์ AI Love You

AI Love Youจะบอกเล่าเรื่องราวของโลกในอนาคต ที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่ได้สร้างตึกสมาร์ทซึ่งมี AI อัจฉริยะอำนวยความสะดวกให้กับผู้คน กระทั่งวันหนึ่งมี AI ที่ชื่อว่า ด็อบ ได้ไปตกหลุมรัก ลาน่า (ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) หญิงสาวที่กำลังตามหาความรัก จนทำให้ทางบริษัทตัดสินใจส่ง บ็อบ (มาริโอ้ เมาเร่อ) โปรแกรมเมอร์หนุ่มมาแก้ไขระบบของด็อบ ทันใดนั้นเจ้า AI จึงหนีเข้ามาควบคุมร่างกายของบ็อบ และใช้ร่างกายของเขาเพื่อเข้าหาลาน่า เรื่องราววุ่นๆ ของ AI ที่ดันไปตกหลุมรักมนุษย์จึงเริ่มต้นขึ้น ดูหนังออนไลน์

รีวิวซีรี่ย์ AI Love You

หนังมีจุดแข็งที่น่าสนใจในด้านวิชวล โดยเฉพาะเอไอในรูปแบบอาคารที่มีใบหน้ามีตามีปากแบบหุ่นกระป๋องขนาดยักษ์ แถมบางตัวยังมีแขนที่ช่วยในฟังก์ชันสื่อภาษากายแสดงความรู้สึกด้วย คือแหวกกระชากประสบการณ์ผู้ชมมาแต่ไกล และความพิถีพิถันในงานซีจีก็ถือว่าทำออกมาได้เนียนตากำลังดี เอาจริงถ้าหนังต่อยอดศักยภาพที่มีไปจนถึงเอาพวกอาคารเอไอลุกขึ้นมาแล้วต่อยกันเป็นหนังหุ่นยักษ์ น่าจะได้ใจกลุ่มคอหนังคัลต์ไปอีกมากโข น่าเสียดายที่ผู้สร้างยังดูยั้งมือมากไปหน่อย ดูหนัง 4k 

รีวิวซีรี่ย์ AI Love You

เรียกว่าเป็นที่ฮือฮากันหนักมากหลังจากที่สองนักแสดงระดับซุปตาร์ของประเทศไทยรวมตัวแพคคู่แสดงหนังด้วยกันอีกครั้งนั้นในรอบ 10 ปี นั้นคือ “มาริโอ้ เมาเร่อ และ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก” ครั้งนี้ทั้งสองได้กลับมาเจอกันในหนังเรื่อง “AI Love You เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด” เป็นหนังแนวรักโรแมนติกคอมเมดี้-ไซไฟที่เกี่ยวกับ AI โลกอนาคต ซึ่งมีความน่าสนใจและหลายคนพูดถึงกันเป็นอย่างมาก วันนี้เราเลยถือโอกาสจะมารีวิวหนังเรื่องนี้กันผ่าน ‘รีวิวหนัง AI Love You เอไอหัวใจโอเวอร์โหลด ความรักของหุ่นยนต์ที่ไม่มีหัวใจ มาริโอ้ x ใบเฟิร์น’ หากอยากรู้แล้วก็ตามมารับชมกันไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ ดูหนังออนไลน์ 4k

พล็อต AI หลงรักมนุษย์ไม่ได้ใหม่ ก่อนนี้ที่ดังๆ ก็อย่าง HER รักดังฟังชัด หนังโรแมนติก/ไซไฟ ที่ฉายในปี พ.ศ. 2556 การที่เรื่องนี้เอามาพล้อตนี้มาใช้ รวมถึงการย้ายร่าง AI มาในมนุษย์ก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไร ใน HER ก็มีทำมาหมดแล้ว และ HER ยังพยายามอิงความสมเหตุผลให้คนดูเชื่อตามได้ แต่กับเรื่องนี้คือเขียนบทมาทีหลัง แต่ขาดความสมเหตุผลไปกับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ตึกที่มี AI ควบคุมแบบง้องแง้งทั้งรูปร่างหน้าตากับการกระทำ การถ่ายโอนร่างมายังมนุษย์ก็ไม่มีอิงกับอะไรให้พอเข้าใจได้ ไม่มีการอธิบายอะไรไม่พอ การกระทำหลังจาก AI เข้าร่างมนุษย์ก็งี่เง่าถึงขั้นบัดซบ อย่างการฉี่ไม่เป็น นอนไม่เป็น รีวิวซีรี่ย์ 

รีวิวซีรี่ย์ AI Love You

ซึ่งในเรื่องตอนแรกวางไว้ว่า AI รวบรวมข้อมูลทุกอย่างไว้ถึงขั้นหลงรักมนุษย์ได้ แต่กลับทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้ต้องมาถาม AI ด้วยกันเองว่ามนุษย์นอนยังไง ที่ยกมานี่ยังเป็นแค่เสี้ยวเดียวของเรื่องเท่านั้น เพราะถ้าให้เล่าอธิบายนี่คือทุกจุดทุกฉากในเรื่องนี้เลวร้ายถึงขั้นนี้แทบทั้งหมด 99% เลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะช่วงท้ายฉากจบที่จบดื้อๆ แบบ WTF มักง่ายมากๆ จนแทบไม่น่าเชื่อ โอเคว่าถ้ามองว่านี่มันหนังตลกโรแมนติกจะเอาอะไรมาก ก็ต้องบอกว่าส่วนตลกของเรื่องนี้ผู้เขียนก็ตลกไปกับมันได้อยู่นะ กับการที่มาริโอทำท่าเด๋อด๋าไม่เต็ม หรือฉากเปิดตัวที่ทำเรื่องเชี่ยๆ ในนัดเดทแบบที่ไม่น่ามีผู้ชายที่ไหนเชี่ยแบบปัญญาอ่อนได้ขนาดนี้ บทอาจจะตั้งใจเขียนให้เว่อร์ๆ เอาตลกเข้าว่า แต่ที่มันตลกจริงๆ มาจากการที่เรื่องราวขาดเหตุผลให้เชื่อตามได้มากกว่า คือมันง้องแง้งในตัวมันเองจนไม่ต้องมีมาริโอทำเด๋อด๋าก็ตลกในตัวอยู่แล้ว คือถ้าผู้สร้างคิดมาเหนือขนาดนี้ว่าให้บทมันดูขาดเหตุผลจนถึงขั้นป่วยให้คนตลกก็ยอม กราบเลยว่าวิธีนี้ได้ผล แต่คิดว่าผู้สร้างไม่น่าจะตั้งใจทำแบบนี้หรอก

นอกจากนี้หนังยังมีจุดดีในการดึงนักแสดงอย่าง ใบเฟิร์น – พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ และ มาริโอ้ เมาเร่อ กลับมาร่วมงานกันในหนังโรแมนติกได้หลังจากความสำเร็จใน “สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก” (2553) เมื่อ 12 ปีก่อน ศักยภาพนักแสดงนั้นเจาะกลุ่มตลาดเอเชียได้อย่างสบายมาก ๆ และการแสดงของทั้งคู่และออร่าความสวยหล่อก็ยังพุ่งทะลจอแม้บทจะไม่ได้ส่งเท่าใดนัก ปัญหาของหนังน่าจะเป็นเรื่อง โลกฉากหลังอันแห้งแล้งหัวใจ เหมือนเราเดินเข้าไปอยู่ในเกมเดอะซิมที่มีแต่ NPC มากกว่าโลกอนาคตที่มีคนอยู่จริง ๆ ตัวบทไม่ได้ชักนำให้รู้สึกถึงมิติความซับซ้อนของตัวละครและเรื่องราว หรือแม้แต่สาระที่ต้องการถ่ายทอดก็ออกมาไม่ค่อยชัด

รวมกับการกำกับการแสดงที่ประดักประเดิดไม่ค่อยลงตัว เข้าใจว่าผู้กำกับอย่าง สเตฟาน สโลเตซคู และ เดวิด อัศวนนท์ อาจมีปัญหาในการคุมโทนของหนังไม่น้อย จึงมีฉากประหลาดแบบ หัวนมซีนและเรอซีน เข้ามา และทำให้นักแสดงต้องอาศัยความเข้าใจภาพรวมของเรื่องที่ก็ไม่ค่อยซับซ้อน แล้วแบกการแสดงในแต่ละฉากไปกันเองทำให้จะดูเป็นหนังบันเทิงก็เลยไม่ค่อยสนุก ครั้นจะดูเป็นหนังคอนเซ็ปต์ก็ทำได้ไม่ชัดไปอีก และเหตุผลที่ว่ามาทำให้ไม่แปลกที่คนจำนวนมากรู้สึกไม่โอเคกับหนังเรื่องนี้

ชั่วโมงแรกของเรื่องหมดไปกับความพยายามของ AI ทำให้สาวรับรัก ซึ่งก็ดูจะเป็นแนวนี้ไปจนจบก็น่าจะได้ แต่ไม่รู้ผู้สร้างนึกไง อยู่ๆ อยากเปลี่ยนแนวมาแอ็กชั่นก็เปลี่ยนกันดื้อๆ โดยให้มีนักฆ่าส่งมาจากบริษัทผู้สร้าง AI เพื่อมาจัดการโดยเฉพาะ ตัวหนังก็พยายามเปลี่ยนแนวเป็นแอ็กชั่นระทึกจากการที่พระเอกถูกไล่ล่า แล้วก็มีเปิดโอกาสให้นางเอกได้บทบู๊ต่อสู้กับนักฆ่า ที่เหมือนคิวบู๊ดูดีนิดนึงแหละ แต่สุดท้ายก็ไม่วายจบลงด้วยฉากป่วยๆ กับนักแสดงในบทนักฆ่าที่เล่นได้เฟคสุดๆ จนคนดูคงต้องหลุดขำอีกครั้งกับความเฟคของหมอนี่
สำหรับคนที่คาดหวังว่าจะดูเคมีเลิฟๆ ของมาริโอกับใบเฟิร์นก็ต้องบอกว่าทำใจกันหน่อย คือด้วยความที่คนดูอินกับนักแสดงก็อาจจะมองข้ามทุกอย่างเพื่อมาดูแค่นี้ก็ได้ ซึ่งผู้เขียนเองก็ทนดูจนจบได้เพราะใบเฟิร์นล้วนๆ เช่นกัน ตัวหนังทำฉากโรแมนติกของทั้งคู่ออกมาไม่ได้ดีอะไรนัก แต่ก็พอกล้อมแกล้มให้หายคิดถึงได้ แม้บทสนทนาจะไม่เป็นธรรมชาติมากๆ จนดูแข็งๆ กันทั้งคู่ แต่ที่แปลกหน่อยคือเรื่องนี้ใบเฟิร์นกลับเป็นสายรุก อาจจะเพราะฝรั่งเขียนบทด้วยมั้งเลยทำให้ทั้งคู่มีบทจูบเลิฟซีนกันทันทีในเดตแรกกับ AI แต่ก็ไม่ได้ให้เห็นอะไรสักนิดหรอกนะ นอกจากแค่จูบเท่านั้น
คะแนนที่ปรากฏในบทความนี้จึงอยู่บนบรรทัดฐานเทียบหนังไทยบนเน็ตฟลิกซ์ปกติ เพื่อให้เปรียบเทียบกับเรื่องอื่นได้ง่าย และหนังมันก็ไม่มีอะไรเสียจนต้องคิดนอกกรอบการดู แล้วส่วนตัวก็กลับค้นพบวิธีการดูหนังเรื่องนี้ให้ได้สนุกขึ้นมาก และกลายเป็นว่าได้สังเกตเห็นปรัชญาที่น่าสนใจของหนังในหลาย ๆ ฉากทีเดียว ถ้าดูด้วยวิธีพิเศษนี้ผมจะให้คะแนนราว 8.5/10 เลยทีเดียว วิธีการที่ว่าคือ เปิดเสียงบรรยายไทย (Thai-Audio Description) แทนที่จะเปิดเสียงไทยธรรมดา ตัวช่วยเสียงบรรยายไทยนี้จริง ๆ ออกแบบมาสำหรับผู้พิการการมองเห็นสามารถเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ได้ โดยจะมีเสียงคอมพิวเตอร์โมโนโทนที่เป็นผู้ชายคอยพูดเล่าว่าบนจอเกิดอะไรอยู่แทรกระหว่างที่ไม่มีบทสนทนาของตัวละคร
ด้วยความที่เรื่องมาแนวไซไฟหน่อยๆ ก็เลยต้องมีพวกงาน CG มาเกี่ยวข้องด้วยหลายอย่าง จากทุนสร้าง 35 ล้านบาท (อ้างอิงจากบัดเจ็ตใน IMDB) แต่หลายอย่างในเรื่องนี้กลับออกมาแบบง่อยๆ ตั้งแต่ยอดตึกรูปร่างหุ่นยนตร์ที่ดูยังไงปลอม หน้าจอติดต่อ AI ที่เหมือนเด็กประถมออกแบบ การเข้าไปในสมองกลของ AI ก็ดูงานหยาบมาก หรือหุ่นยนต์ตามที่ต่างๆ ก็ดูเป็นหุ่นกระป๋องโลวเทคสุดๆ เป็นหนังที่งบเยอะเกินคาด เพราะดูสเกลแล้วไม่น่าใช้งบได้ขนาดนี้เลย กลายเป็นหนังที่ทำร้ายซ้ำเติมภาพลักษณ์วงการหนังไทยเข้าไปอีก
ความรู้สึกของคนที่สายตาปกติดู จะรู้สึกคล้ายมีผู้กำกับที่เป็นหุ่นยนต์กำลังนั่งบอกบทให้นักแสดงเล่นตามบท เช่น สาวหน้าหวานเอียงคอไปมาและยิ้มแห้ง ชายหน้าเข้มชูสองนิ้วและยักคิ้ว โดยที่ภาพตรงหน้าคือใบเฟิร์นและมาริโอ้กำลังเล่นตามคำบอกประมาณนี้ ข้อดีคือหนังจะไม่มีจุดเอื่อยเลย ทุกช่องว่างที่ตัวละครไม่พูดแล้วแสดงอะไรที่ไม่ได้สำคัญมันถูกเติมเต็มให้ดูน่าสนใจไปหมด เหมือนผู้สร้างมานั่งข้างคุณแล้วบอกว่าตรงนี้ผมอยากให้รู้สึกแบบนี้นะ
ประการต่อมาคือมันตอบโจทย์คอนเซ็ปต์ของหนังได้อย่างพอดิบพอดีมาก พลอตสำคัญคือตัวเอกในเรื่องจะถูกเอไอเข้าสิงร่างและมีการตั้งคำถามบาง ๆ ว่าอันไหนคือตัวตนที่มีอยู่จริง ๆ ในขณะเดียวกันพอเราดูนักแสดงเล่นตามคำบอกของเสียงบรรยายไทย มันก็คือนักแสดงเหล่านี้กำลังถูกสิงร่างด้วยผู้สร้างให้เป็นตัวละครนั้น ๆ อยู่ เกิดคำถามปรัชญาที่ล้อเคียงกันไปได้อย่างน่าสนใจทีเดียวว่าอันไหนคือของจริง นักแสดงหรือตัวละคร
รีวิว] AI Love You: ฮาวทูดูหนังจืดให้เป็นหนังปรัชญา - #beartai
และทำให้เกิดการถกเถียงขึ้นต่อไปได้อย่างน่าสนใจว่า หนังกำลังนำเสนออะไรที่ลึกซึ้งได้มากกว่าที่เห็นหรือไม่ ทำไมเอไอที่มีความรู้มากมากพอมาอยู่ในร่างมนุษย์ถึงกลายเป็นดูไม่ประสีประสาอะไรเลย หรือนี่คือบทจำลองว่าด้วยจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ (พระเจ้า) ที่พอจุติย่อยมาอยู่ในกายเนื้อมนุษย์ก็กลับสู่บาปและอารมณ์อันขุ่นมัวเหมือนเด็กไร้เดียงสา รอวันที่จะบรรลุกลับไปรวมกับจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง สำหรับในเรื่องนี้คือการค้นพบความรักและคำตอบว่าเขามีชีวิตจริงหรือไม่
หนังยังนำเสนอว่าเอไอที่รู้พฤติกรรมของนางเอกทั้งหมดย่อมทำสูตรสำเร็จให้นางเอกมารักได้ (ถ้าดูตามหนังปกติช่วงนี้จะอิหยังวะมากว่ารักกันง่ายจัง) เช่นเดียวกับเรื่องการตลาดแบบวิเคราะห์บิ๊กดาต้าที่หาสูตรสำเร็จสร้างความต้องการของลูกค้าจนได้ ใจมนุษย์มันถูกควบคุมง่ายถึงขนาดนั้นเลยหรือไม่ และเมื่อนางเอกรู้ความจริงถึงตัวตนใต้ใบหน้าของแฟนหนุ่ม เธอจึงได้โกรธมาก ไม่ต่างจากเราที่รู้ว่าฟีดที่ถูกใจทั้งหลายมาจากการถูกแอบฟังและแอบติดตามพฤติกรรมการใช้งานแอปทั้งหลาย ไม่รู้ผู้สร้างคิดไปขนาดนั้นไหมแต่ก็ชวนให้คิดได้เช่นกันครับ

อีกหนึ่งอย่างที่น่าสนใจมากคือเพื่อนนางเอกที่เป็นคนจริง ๆ ที่ชื่อ คาร่า ไม่เคยปรากฏตัวในชีวิตจริงของนางเอกเลย ปฏิสัมพันธ์กันผ่านทางหน้าจอเท่านั้น เมื่อมองแบบนี้สิ่งมีชีวิตปลอม ๆ อย่างเอไอพระเอกที่ก้าวเข้ามาอยู่ในชีวิตจริง ๆ ของนางเอกจะถือว่ามีตัวตนอยู่จริงมากกว่าคาร่าได้หรือเปล่า น่าถกเถียงใช่มั้ยล่ะ

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *