รีวิวซีรีย์เกาหลี vagabond เจาะแผนลับ เครือข่ายนรก
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ทุกคน วันนี้ผมจะมาแนะนำ ซีรีย์เกาหลี มาใหม่ น่าดู อย่างเรื่อง vagabond ที่เรียกได้ว่เป็น ซีรี่ย์ที่ได้ลงออกอากาศ netflix เพียงไม่นานก็ ขึ้นติดชาร์จ อันดับ 1 อย่างรวดเร็ว แม้จะไม่ได้รับคำวิจารณ์ที่ดีมีมากนัก หนัง หรือ ซีรี่ย์ นั่น ก็มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ ก็เหมือนกับเหรียญที่มีสองด้าน ส่วนตัวแล้วผมชอบมาก ๆ ครับ ซึ่งถ้าหากใครกำลังหา ดูหนังออนไลน์ การเปิดซีรี่ย์เรื่องนี้ดู ก็ถือว่าไม่เลวเลยครับ
รีวิวซีรีย์เกาหลี vagabond ซีรีส์ฟอร์มยักษ์ netflix
นี่เป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ ของประเทศเกาหลีที่ได้ฉายร่วมกับทาง Netflix ซีรีส์ออริจินัล ซึ่งได้หนังฉายพร้อมเกาหลีอาทิตย์ละถึง 2 ตอนกันเลยทีเดียว เรื่องนี้ได้ลง วันศุกร์ และ วันเสาร์ โดยเรื่องราวของหนังเรื่องนี้ จะเป็นเรื่องราวเกี่ยว ชาดัลกอน
โดยพระเอกจะมสกิลหลัก ๆ เลยก็คือ ที่มีอาชีพสตันท์แมน ออกตามล่าหาตัวการที่ทำให้เกิดเหตุ สุดสลดใจ อย่างเหตุการณ์สุดน่าเศร้าการที่เครื่องบิน ที่มีผู้โดยสารถึง 211 คนได้ตกลง ซึ่งเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายมีถึง 211 คน ไม่มีใครรอดชีวิตเลยสักคน
และหลานชายเขาเป็นหนึ่งในนั้น แต่แล้วพระเอกกลับได้เบาะแสจากวิดีโอที่ถ่ายไว้โดยหลายชายบนเครื่องก่อนตก พบว่ามีชายผู้รอดชีวิต 1 คนจากบนเครื่อง แต่ไม่มีในรายชื่อผู้โดยสารว่าเป็นใคร ยิ่งตามสืบเท่าไหร่เรื่องราวกลับยิ่งใหญ่โตเกินกว่าที่เขาคาดคิด
VAGABOND หรือในชื่อไทยว่า เจาะแผนลับ เครือข่ายนรก ซีรี่ย์ทุ่มทุนสร้างจากเกาหลี กว่า 2 แสน 5 หมื่นล้านวอนหรือ 656 ล้านบาท กำกับโดย’ยูอินชิก’ ฉายพร้อมกันทั่วโลกใน’Netflix’และทางช่อง ‘SBS’ ของเกาหลี
ในวันและเวลาเดียวกัน (จำนวน16ตอนใน’Netflix’ 32 ตอนในช่อง’SBS’) นำแสดงโดย “อีซึงกิ, แบซูจี” เสิรมทัพนักแสดงด้วย “ชินซองรก, มูนจองฮี, ฮวังโบรา, เบคยูนชิค, จองมันชิก, จางฮยอกจิน” และนักแสดงมากฝีมืออีกมากมาย
เรื่องย่อ vagabond
vagabond เรื่องย่อ เรื่องราวในซีรี่ย์เรื่องนี้ จะว่าด้วยเรื่องของพระเอกหนุ่มหล่ออย่าง ชาดัลกอน สตั๊นแมนหนุ่ม สุดหล่อ ที่ได้นักแสดงดังอย่าง อีซึงกิ มารับบทเป็นพระเอก และ เขามีความใฝ่ฝันอยากเป็นผู้กำกับหนังคิวบู๊ ก่อนที่เขาจะได้ออกจากสตั๊นแมนมาขับรถโดยสาร อย่างการขับแท็กซี่ เพื่อหาเลี้ยงหลานชาย อย่าง ชาฮุน ที่กำลังศึกษาเล่าเรียน
โดยหลอกลวงหลานว่าเขานั่น ยังทำอาชีพสตั๊นแมนอยู่ แต่แล้วก็ได้เกิดเหตุการณ์ขึ้น เมื่อวันนึงหลานชายรู้ความจริงก่อนเดินทางไปสาธิตยูโดที่โมร็อกโก ว่าคุณอาได้ออกจากสตั๊นแมนแล้ว และได้เก็บของที่คุณอารักไว้ให้ และได้อัดคลิปบอกความในใจ ก่อนเครื่องบินจะขึ้นบิน จัดเก็บไว้ในคลาวด์ให้คุณอาดู
หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง ก็ได้เกิดการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เครื่องบินที่ไปโมร็อกโกเกิดระเบิด และตกระหว่างใกล้ถึงโมร็อกโก ซึ่งมีทีมสาธิตยูโดของเกาหลีอยู่ในนั้นด้วย และเสียชีวิตยกทีม และผู้โดยสารเสียชีวิตทั้งลำทั้งหมด 211 ศพ
ทางรัฐบาลเกาหลี ได้ออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้บริษัทที่ก่อสร้างเครื่องบินลำนั้นรับผิดชอบ และชดใช้ค่าเสียหายให้กับญาติผู้เสียชีวิต และให้นำญาติผู้เสียชีวิต เดินทางไปทำพิธีไว้อาลัยที่โมร็อกโก
การเดินทางครั้งนี้ทำให้’ชาดัลกอน’ได้รู้ความจริงว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุก่อการร้าย เพราะเห็น 1 ในผู้โดยสาร ที่หลานชายได้ถ่ายติดไว้ในวีดีโอบนเครื่องบิน รอดชีวิตมาอยู่สนามบิน ‘ชาดัลกอน’ ได้พยายามตามชายปริศนาจนเจอตัว และเค้นถามความจริง แต่เกิดการต่อสู้ ทำให้ผู้ร้ายหลบหนีไปได้
ความรู้สึกหลังรับชม vagabond
สำหรับความรู้สึกครั้งแรก ที่ได้รับชม บอกเลยว่า รู้สึกว่าหนังดูเจ๋ง ดูปังมาก การเล่าเรื่อง การทำเดินเรื่อง เรียกได้ว่าควรค่าแก่การดูมากจริง ๆ บอกตามตรงว่าอยากป้ายยาให้ทุก ๆ คนได้ดูจริง ๆ ซึ่งเรื่องนี้ ดราม่าซีรีส์ในซีซันแรกนี้ (ใช่ครับกระแสดีแบบนี้ ไม่จบไวหรอก)
มีจำนวนทั้งหมดถึง 16 ตอน ซึ่งถือว่าเยอะในระดับนึงเลย โดยออกอากาศทางช่อง SBS (Seoul Broadcasting System) ทุกคืนวันศุกร์-เสาร์ เวลา 4 ทุ่มเป็นต้นไป และออกอากาศผ่านทางสตรีมมิงชื่อดังอย่าง เน็ตฟลิกซ์ (Netflix)
ในเวลาเดียวกัน ส่งผลปัญหามากมายแก่ผู้ชมอย่างเรา ๆ เพราะต้องตั้งตาคอยดูตอนใหม่มาทุกสัปดาห์เวลา 4 ทุ่มเลย แล้วยิ่งสัปดาห์ไหนทางเกาหลีติดถ่ายทอดสดรายการพิเศษ ชาวเน็ตฟลิกซ์อย่างเราก็ต้องอดดูตามไปด้วย
หลังจากดูทรงแบบด่วนรีวิวกับ 2 ตอนแรกไป (อ่านที่นี่) ก็ขอมาฝอยสรุปหลังดูจบทั้ง 16 ตอนกันอีกรอบว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไรบ้าง และคำถามสำคัญหลังจากนี้จะเป็นยังไงบ้างเราจะได้ดูซีซัน 2 กันมั้ย หรือจะจบแบบปล่อยผู้ชม เคว้ง ตามที่ชาวเน็ตเขาแซวกันนะ (ฮา)
ส่วนที่ชอบ ซีรีส์เริ่มจากเรื่องของคนตัวเล็ก ๆ ที่ถูกผลักให้ไปอยู่ในสถานการณ์ที่ใหญ่เกินตัว จริง ๆ ก็เกินไปเยอะเลย นึกสภาพคนหาเช้ากินค่ำที่อยู่ดี ๆ จะต้องไปเจอทั้งกลุ่มผู้ก่อการร้าย องค์กรนักฆ่า หน่วยข่าวกรองระดับชาติ ระดับข้ามชาติ แวดวงการเมืองประเทศ การเมืองโลก เชส นี่มันอะไรกันเนี่ย
ไอ้หนุ่มดวงซวยคนนี้มีนาม ชาดัลกอน เขามีคาแรกเตอร์แนวมุทะลุ ตรง ซื่อ อ่านง่าย ไม่พลิกแพลง เป็นคาแรกเตอร์แบบที่ไม่น่าอยู่ในหนังแนวสายลับสองหน้าไล่ล่าหักหลังคอร์รัปชันได้เลย แต่เพราะแบบนี้ล่ะเลยทำให้ซีรีส์นี้ดูแตกต่างขึ้นมา ทำให้เราติดตามเรื่องราวง่ายเข้าใจได้แม้ไม่ชินกับหนังที่พลิกไปมา
รีวิวซีรีย์เกาหลี vagabond ซีรี่ส์แนว แอ็คชั่น กำกับโดย ยูอินซิก
Vagabond เป็นซีรี่ส์แอ็คชั่น-ทริลเลอร์ความยาว 16 ตอน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ SBS ที่เกาหลี แต่คนทั่วโลกสามารถรับชมได้ผ่านทาง Netflix ซีรี่ส์กำกับโดย ยูอินซิก Yu In Shik และได้ จางยองชอล Jang Young-Cheol กับ จองคยองซุน Jung Kyung-Soon
มาทำหน้าที่เขียนบท พวกเขาคือ 3 ประสานทีเด็ดที่ร่วมงานกันเมื่อไหร่เป็นต้องปังทุกเรื่อง นำโดย Giant (2010), History of the Salaryman (2012) และ Incarnation of Money (2013) ซึ่งกวาดเรตติ้ง คำชม และรางวัลมาครองถล่มทลาย และ Vagabond ก็เข้าข่ายนั้นเช่นกัน
จริงๆ แล้ว Vagabond ควรต้องออกอากาศตอนแรกไปตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เพราะการถ่ายทำเสร็จสิ้นล่าช้าทำให้ต้องเลื่อนมาออกอากาศในเดือนกันยายนแทน และเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมาก็เพิ่งฉายตอนสุดท้ายจบลง กลายเป็นว่าความล่าช้าไม่มีผลต่อเรตติ้งซึ่งดีไม่มีตก แถมยังได้รับเสียงชื่นชมอย่างกว้างขวางจากนักวิจารณ์และสาธารณชน และถูกกล่าวถึงในโลกโซเชี่ยลจนติดเทรนด์ระดับโลก
บทสรุป vagabond
ดังที่กล่าวไปว่า Vagabond มาพร้อมความสนุกและความน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ยิ่งเรื่องราวดำเนินไปและเจอเรื่องพีคขึ้นเรื่อยๆ ก็ชวนให้กังวลเหมือนกันว่า สุดท้ายแล้วผู้สร้างจะหาทางคลี่คลายปมทุกอย่างให้สวยงามได้อย่างไร และมีตัวอย่างมากมายที่ดำเนินมาเรื่องมาอย่างดิบดี
ทว่ากลับพังพินาศในตอนจบ ตัวอย่างสำคัญก็คือ 24 ในหลายๆ ซีซั่น แต่โชคดีว่า Vagabond ไม่ได้เอาข้อเสียดังกล่าวมาใช้ แถมยังหาทางที่ฉลาด (และเหนือความคาดหมาย) จนทำให้ใครต่อใครที่ได้ดูต่างอยากดูซีซั่นต่อไปกันใจจะขาดถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการว่า
เหล่าผู้สร้างจะเดินหน้า Vagabond ซีซั่น 2 กันหรือไม่ และถ้ามีจริงจะมีกำหนดฉายเมื่อไหร่ เพราะยังต้องดูข้อตกลง และคิวงานของหลายๆ ฝ่าย ซึ่งเพิ่งได้พักจากการทำงานอันหนักหนาและยาวนานถึง 11 เดือน
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าท้ายที่สุดแล้ว เราน่าจะได้ดู Vagabond ซีซั่นต่อไปแน่นอน เพราะหากไม่มีภาคใหม่ตามมา เชื่อได้ว่าเหล่าผู้สร้างน่าจะโดนคนทั่วโลกรุมประชาทัณฑ์โทษฐานที่มาทำให้อยากแล้วจากไป
ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อว่ามหกรรมความเดือดนี่จะกลับมาอีกทีเมื่อไหร่ แต่ถึงต้องรอนานหน่อย หากการรอคอยแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีงามแบบนี้ มั่นใจได้ว่าคนดูก็พร้อมจะรอ อย่างน้อยก็มีผู้เขียนหนึ่งคนแล้วแน่นอน